เปรียบเทียบ เข้าใจง่าย ตัดสินใจได้ในไม่กี่นาที

ในยุคที่การขยายทีมและสร้างความน่าเชื่อถือในธุรกิจเครือข่ายต้องอาศัย “เว็บไซต์” เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญ การเลือกแพลตฟอร์มที่ใช้สร้างเว็บจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ต้องคิดให้ดี เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีข้อดี-ข้อจำกัดที่ต่างกัน

บทความนี้จะช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า “ควรเลือกทำเว็บด้วยอะไร?” ให้เหมาะกับงบประมาณ ความสามารถ และเป้าหมายของคุณในธุรกิจเครือข่าย

🔍 ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเลือกแพลตฟอร์ม

ก่อนจะไปดูแต่ละตัวเลือก มาทบทวนก่อนว่าคุณควรถามตัวเองว่า...

1. มีทีมงานหรือทำคนเดียว?

2. งบประมาณต่อปีประมาณเท่าไหร่?

3. ต้องการแค่เว็บแนะนำธุรกิจ หรือมีระบบแนะนำสายงานด้วย?

4. อยากให้ทีมสามารถใช้งานร่วมกันไหม?

5. อยากให้เว็บดูโปร/ปรับแต่งได้มากแค่ไหน?

💡 ตัวเลือกยอดนิยมในการสร้างเว็บไซต์สำหรับธุรกิจเครือข่าย

1. WordPress (พร้อมปลั๊กอินระบบแนะนำ)

• ✅ เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับแต่งอิสระ

• ✅ มีปลั๊กอินช่วยสร้างระบบ Affiliate/Referral

• ✅ ควบคุมได้เต็มรูปแบบ

• 💸 ต้องซื้อ Hosting และอาจต้องจ้างคนดูแลระบบ

• ⚙️ เหมาะกับทีมที่มีคนดูแลด้านเทคนิคได้

2. เว็บไซต์สำเร็จรูป (Wix, Webflow, Page365, MakeWebEasy ฯลฯ)

• ✅ สร้างได้เร็ว ไม่ต้องเขียนโค้ด

• ✅ มีเทมเพลตพร้อมใช้งาน

• 💸 ค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน/ปี

• ⚠️ ระบบ Affiliate บางเจ้าต้องเชื่อมภายนอก

• ❌ ปรับแต่งได้จำกัดกว่าการใช้ vipshopthai, prowebcreate

3. แพลตฟอร์มเฉพาะสำหรับธุรกิจเครือข่าย (เช่น vipshopthai, prowebcreate, etc.)

• ✅ สร้างมาเพื่อธุรกิจเครือข่ายโดยเฉพาะ

• ✅ มีระบบแนะนำสายงาน, ลิงก์ส่วนตัว, Dashboard ในตัว

• ✅ เหมาะกับผู้นำที่มีทีมงานเยอะ

• 💸 มีค่าบริการรายเดือน/ปี

📝 ตารางเปรียบเทียบ

✅ สรุป: เลือกให้เหมาะกับ “เป้าหมาย” ไม่ใช่แค่ความสวยงาม

ถ้าคุณเป็นมือใหม่ อยากเริ่มเร็ว: ใช้เว็บไซต์สำเร็จรูป อาจเป็นทางเลือกที่ดี
ถ้าคุณมีทีมเทคนิค หรืออยากควบคุมทุกอย่างเอง: vipshopthai, prowebcreate คือทางเลือกยืดหยุ่นที่สุด
แต่ถ้าคุณเน้นขยายทีมอย่างเป็นระบบ พร้อมใช้งานเลย: เลือกแพลตฟอร์มเฉพาะด้านธุรกิจเครือข่าย จะประหยัดเวลาที่สุด

ระบบ Affiliate จำหน่ายระบบ Affiliate ระบบคำนวณรายได้ ทำเว็บ สร้างเว็บเอง  Respondsive Web เว็บขยายงาน สำหรับแม่ทีมธุรกิจเครือข่าย หนึ่งเว็บแจกฟรีได้นับพันนับหมื่น