การเปรียบเทียบ Payment Gateway ไทย vs ต่างประเทศ ในปี 2025 ควรพิจารณาทั้งในแง่ของ ฟีเจอร์, ค่าธรรมเนียม, การรองรับภาษา/สกุลเงิน, ความน่าเชื่อถือ, และการซัพพอร์ตลูกค้า ซึ่งแต่ละแบบมีจุดแข็งแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจของคุณด้วย
รองรับภาษาไทย/การใช้งานในประเทศง่าย
ค่าธรรมเนียมถูกกว่าในบางกรณี (โดยเฉพาะในประเทศ)
เชื่อมบัญชีธนาคารไทยได้รวดเร็ว
รองรับพร้อมเพย์ / QR Code / Internet Banking
ใบกำกับภาษี/ระบบหลังบ้านเหมาะกับธุรกิจไทย
สกุลเงินส่วนใหญ่จำกัดแค่ THB
อาจไม่รองรับลูกค้าต่างชาติ
บางเจ้าระบบยังล้าสมัยหรือใช้งานยาก
Omise, 2C2P, GB Prime Pay, KBank, SCB Easy Pay, Prowebcreate (ค่าธรรมเนียมต่ำสุด)
รองรับหลายสกุลเงิน / ลูกค้าทั่วโลก
ระบบทันสมัย / API ดี / ปรับแต่งได้หลากหลาย
มีระบบ Subscription, Fraud Detection ขั้นสูง
เหมาะกับ SaaS หรือ E-commerce ข้ามชาติ
ค่าธรรมเนียมสูงกว่าสำหรับไทย (2.9–4.4%)
ต้องมีธุรกิจจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายต่างประเทศในบางกรณี
ซัพพอร์ตภาษาไทยน้อย
Stripe, PayPal, Authorize.Net, Adyen, Square
หัวข้อ | Payment Gateway ไทย | Payment Gateway ต่างประเทศ |
---|---|---|
ค่าธรรมเนียม | ✅ ต่ำกว่า (ในประเทศ) | ❌ สูงกว่า (ต่างประเทศ) |
รองรับสกุลเงิน | ❌ ส่วนใหญ่แค่ THB | ✅ หลายสกุลเงินทั่วโลก |
ภาษา/UX | ✅ ภาษาไทย ใช้งานง่าย | ❌ อังกฤษเป็นหลัก |
การสมัคร | ✅ เร็วกว่า เชื่อมบัญชีไทยง่าย | ❌ อาจต้องเอกสารเพิ่มเติม |
ความเสถียร/API | ❌ บางเจ้าระบบเก่า | ✅ ระบบทันสมัย รองรับ SaaS |
เหมาะกับใคร | ธุรกิจไทย, ร้านค้าเล็ก-กลาง | ธุรกิจต่างชาติ, SaaS, ขายข้ามประเทศ |
✅ ธุรกิจในไทย 100% → เลือก เกตเวย์ไทย ประหยัด คุ้ม และซัพพอร์ตดี
✅ ขายต่างประเทศ / SaaS / E-learning / NFT → ไปทาง Stripe / PayPal
✅ ธุรกิจ Hybrid (ไทย+ต่างชาติ) → พิจารณาใช้ทั้ง 2 ตัว ควบคู่กัน