ระบบ Refund / Void / Cancel ใน Payment Gateway เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการธุรกรรมเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากการชำระเงิน เช่น การคืนเงิน การยกเลิก หรือการปฏิเสธธุรกรรม ซึ่งแต่ละคำมีความหมายและขั้นตอนที่ต่างกันชัดเจน ดังนี้:
คืออะไร:
การคืนเงินให้กับลูกค้าหลังจากที่มีการเรียกเก็บเงินเรียบร้อยแล้ว (ธุรกรรมถูก "Capture")
เกิดขึ้นเมื่อ:
ลูกค้ายกเลิกคำสั่งซื้อหลังจากตัดบัตรเรียบร้อย
สินค้า/บริการมีปัญหา ต้องคืนเงิน
ลักษณะ:
เงินถูกตัดจากบัญชีลูกค้าไปแล้ว
ระบบจะสร้างรายการใหม่ (Refund Transaction) เพื่อโอนเงินกลับ
ผลกระทบ:
ธุรกิจอาจยังเสียค่าธรรมเนียม
ลูกค้าใช้เวลาหลายวันถึงจะได้เงินคืน (3–14 วัน ขึ้นกับธนาคาร)
คืออะไร:
การยกเลิกธุรกรรมที่ยังไม่ได้ "Capture" หรือยังไม่ตัดเงินจริง
เกิดขึ้นเมื่อ:
ยกเลิกคำสั่งซื้อภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังชำระ (ก่อนตัดบัญชีจริง)
ใช้กับบัตรเครดิต/เดบิตที่มีการอนุมัติล่วงหน้า (Authorization Hold)
ลักษณะ:
ไม่เกิดธุรกรรมจริงในใบแจ้งหนี้ลูกค้า
เหมือนเงินไม่เคยถูกหักเลย (แค่ Hold ไว้)
ผลกระทบ:
ไม่มีค่าธรรมเนียมคืน
คืนวงเงินให้ลูกค้าเร็วกว่า Refund
คืออะไร:
การยกเลิกคำสั่งซื้อในฝั่งระบบอีคอมเมิร์ซหรือ POS ก่อนทำการชำระเงินจริง หรือก่อน Authorization
เกิดขึ้นเมื่อ:
ลูกค้าเปลี่ยนใจทันที
ระบบหรือร้านค้าตัดสินใจยกเลิกคำสั่งซื้อโดยยังไม่ส่งไป Payment Gateway
ลักษณะ:
ไม่มีธุรกรรมใดเกิดขึ้นเลยใน Payment Gateway
ไม่เกี่ยวกับการคืนเงิน เพราะเงินยังไม่ถูกตัด
หัวข้อ | Refund | Void | Cancel |
---|---|---|---|
เกิดขึ้นเมื่อ | หลัง Capture | หลัง Authorization แต่ก่อน Capture | ก่อน Authorization |
มีการตัดเงิน | ✅ ใช่ | ❌ ไม่ | ❌ ไม่ |
ลูกค้าเห็นเงินออก | ✅ ใช่ (ชั่วคราว) | ❌ ไม่ (หรือแค่ hold ไม่นาน) | ❌ ไม่ |
ต้องรอเงินคืน | ✅ หลายวัน | ❌ ไม่ต้อง | ❌ ไม่เกี่ยว |
มีค่าธรรมเนียม | ✅ มักมี | ❌ น้อยหรือไม่มี | ❌ ไม่มี |
Refund: ลูกค้าซื้อของแล้วแต่ขอคืนสินค้าภายหลัง → ต้อง Refund
Void: ลูกค้าสั่งผิด แล้วแจ้งยกเลิกทันทีใน 1 ชั่วโมง → สามารถ Void ได้
Cancel: ลูกค้าอยู่หน้าตะกร้า กด “ยกเลิกคำสั่งซื้อ” ก่อนชำระเงิน → แค่ Cancel