เพราะแค่เว็บสวยยังไม่พอ ต้องใช้งานดีด้วย
ในยุคดิจิทัลที่ผู้ใช้งานคาดหวังประสบการณ์ที่รวดเร็ว สะดวก และราบรื่น “การออกแบบ” เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามอีกต่อไป แต่ต้องตอบโจทย์การใช้งานจริง และนี่คือที่มาของคำว่า UX และ UI ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบยุคใหม่
UX = ประสบการณ์ของผู้ใช้
หมายถึงกระบวนการออกแบบประสบการณ์โดยรวมในการใช้งานเว็บไซต์หรือแอป เช่น ความง่ายในการหาข้อมูล ความรวดเร็ว ความรู้สึกที่ได้รับตอนใช้งาน ซึ่งต้องอาศัยการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ การวางโครงสร้าง การวางแผนเส้นทางการใช้งาน (User Journey) ฯลฯ
📌 ตัวอย่างคำถามแบบ UX:
ผู้ใช้หาเมนูสำคัญเจอใน 3 วินาทีไหม?
กว่าจะกด “ซื้อสินค้า” ต้องผ่านกี่ขั้นตอน?
เว็บโหลดช้าหรือเปล่า?
UI = หน้าตาและองค์ประกอบการใช้งาน
หมายถึงสิ่งที่ผู้ใช้เห็นและโต้ตอบกับมัน เช่น ปุ่ม สี ฟอนต์ ไอคอน ภาพประกอบ ไปจนถึงเลย์เอาต์ของแต่ละหน้า ซึ่ง UI ที่ดีจะช่วยทำให้ UX ราบรื่นและน่าใช้งานยิ่งขึ้น
📌 ตัวอย่างคำถามแบบ UI:
ปุ่ม “ซื้อเลย” เด่นพอไหม?
สีของเว็บไซต์สื่อภาพลักษณ์แบรนด์ได้หรือเปล่า?
ตัวหนังสืออ่านง่ายทั้งบนมือถือและคอมไหม?
UX (User Experience) | UI (User Interface) |
---|---|
โฟกัสที่ “ประสบการณ์” การใช้งาน | โฟกัสที่ “หน้าตา” และความสวยงาม |
เน้นกระบวนการ วางโครงสร้าง คิดเชิงกลยุทธ์ | เน้นการออกแบบองค์ประกอบที่ผู้ใช้มองเห็น |
ต้องอิงจากพฤติกรรมและความต้องการผู้ใช้ | ต้องอิงกับภาพลักษณ์แบรนด์และความสวยงาม |
การแข่งขันสูง
ผู้ใช้งานมีตัวเลือกเยอะ หากเว็บหรือแอปใช้งานยาก เขาจะออกทันทีภายในไม่กี่วินาที
ประสบการณ์ดี = ยอดขายเพิ่ม
เว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายจะลดอัตราการละทิ้งตะกร้า เพิ่มโอกาสปิดการขาย
ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
UX/UI ที่ดีตั้งแต่แรก จะลดปัญหาในการแก้ไขภายหลัง เช่น ฟีเจอร์ที่คนไม่ใช้ หน้าเว็บที่คนไม่เข้า
สร้างภาพลักษณ์มืออาชีพ
หน้าตาเว็บไซต์ที่ดีบ่งบอกถึงความใส่ใจ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
ในปี 2025 เว็บไซต์หรือแอปที่ประสบความสำเร็จ ต้องไม่ใช่แค่ “สวย” แต่ต้อง “ใช้งานง่ายและประทับใจ” UX และ UI จึงเป็นสิ่งที่ธุรกิจทุกขนาดควรให้ความสำคัญ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ และต่อยอดสู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจอย่างยั่งยืน